ลดการใช้แอร์ นอกจากการปรับอุณหภูมิแอร์ให้ไม่ต่ำกว่า 25 องศาเซลเซียสแล้ว เราก็ควรเลี่ยงการเปิดแอร์บ้าง อย่างวันไหนที่อากาศกำลังสบาย ไม่ร้อนจัดจนเกินไป เปิดแค่พัดลมและหน้าต่างให้อากาศถ่ายเท ก็น่าจะพอเนอะ ยิ่งพอเข้าสู่หน้าหนาว อากาศเย็น ๆ อย่างช่วงนี้ คงไม่จำเป็นต้องเปิดแอร์สักเท่าไรเลย ก็ถือโอกาสใช้ช่วงเวลาหน้าหนาวให้เป็นประโยชน์ในการประหยัดไฟไปในตัว 3. ปิดก๊อกน้ำเมื่อไม่ใช้ หลายคนชอบให้น้ำอุ่น ๆ ไหลผ่านตัวอย่างสม่ำเสมอในเวลาอาบน้ำ เพราะมันให้ความรู้สึกผ่อนคลายสบายตัวสุด ๆ แต่รู้ไหมคะว่า การเปิดน้ำทิ้งขว้างเกินความจำเป็นอย่างนั้น จะทำให้เราเสียพลังงานน้ำไปเท่าไร โดยเฉพาะคนที่ชอบเปิดก๊อกน้ำทิ้งไว้ตลอด แม้ขณะยืนแปรงฟัน หรือตอนกำลังล้างจานอยู่ก็ตาม คงได้ตกใจกับบิลค่าน้ำปลายเดือนอย่างไม่ต้องสงสัยเลยนะจ๊ะ 4. ถอดปลั๊กไฟทุกครั้งหลังใช้งาน เพียงแค่ปิดสวิตช์เครื่องใช้ไฟฟ้า ก็ไม่ได้หมายความว่ากระแสไฟจะไม่ไหลเวียนผ่านเครื่องใช้ไฟฟ้าของคุณนะคะ ดังนั้นหากคุณไม่ได้ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกครั้งหลังใช้งาน ก็จะเท่ากับว่า คุณเปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นนั้นให้ทำงานอยู่ตลอดเวลา และแม้จะกินไฟไม่เท่าตอนเปิดใช้งานเครื่องจริง ๆ แต่เพียงแค่เสียบปลั๊กทิ้งไว้ ก็สูญเสียพลังงานไฟฟ้าไปได้ถึง 0.

การออกแบบอาคารอนุรักษ์พลังงาน (อาคารประหยัดพลังงาน) – ZERO ENERGY

การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย

10 วิธีประหยัดพลังงานในบ้านแบบเห็นผลจริง

  • หลักการประหยัดพลังงาน
  • (GMV) เพลง Drunk Groove เกม Sky: Children of the Light - Bilibili
  • เลื่อย ใช้ แบตเตอรี่

'การไฟฟ้า' แนะ 10 วิธีประหยัดไฟในบ้านช่วง Work From Home

มาหาคำตอบไปพร้อมกัน 1. เปิดหน้าต่างรับลมและแสงธรรมชาติ การทำงานอยู่ที่บ้านเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญก็คือ เรื่องของแสงสว่างต้องเพียงพอ แต่จะให้เปิดไฟตลอดเวลาก็คงเปลืองไฟแย่ วิธีแรกที่ "การไฟฟ้า" แนะนำก็คือให้คุณเปิดม่านและเปิดหน้าต่างให้แสงสว่างและลมธรรมชาติผ่านเข้ามาในบ้าน ซึ่งถือเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการประหยัดพลังงานในช่วงที่มี การ Work from home ที่สำคัญการเปิดให้อากาศถ่ายเทยังจะช่วยลดความเสี่ยงของ COVID-19 ได้อีกด้วย 2. เลือกใช้หลอด LED สว่างแถมประหยัดไฟ หลายคนคงรู้ว่าหลอดไฟแบบเดิม ไม่ว่าจะเป็นหลอดไส้หรือหลอดฟลูออเรสเซนต์ก็ตาม เมื่อนำมาใช้งานพบว่ากินไฟมากกว่าหลอด LED หากเทียบจากจำนวนหลอดที่เท่ากัน ดังนั้น หากเปลี่ยนมาใช้หลอด LED จะสามารถให้ความสว่างได้มากกว่า และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมไปพร้อมๆ กัน 3. ตั้ง Sleep Mod ในแล็ปท็อปเสมอ การ Work from home คนส่วนใหญ่นิยมใช้แล็ปท็อป ซึ่งการทำงานบนแล็ปท็อปก็กินไฟพอสมควร แต่มีวิธีช่วยประหยัดไฟคือ ให้ตั้ง Sleep Mode เอาไว้เสมอ เมื่อไม่ได้ใช้หน้าจอก็จะปิดอัตโนมัติ อีกทั้งควรปรับแสงจอไม่สว่างเกินไป ก็ช่วยประหยัดไฟได้ 4. ปิด Gadget ไร้สาย เมื่อไร้การเชื่อมต่อ สำหรับอุปกรณ์แก็ดเจ็ดต่างๆ แบบไร้สาย เช่น ลำโพงไร้สาย ควรปิดทันทีเมื่อเลิกใช้ ไม่เสียบปลั๊กทิ้งไว้ จำขึ้นใจว่าเมื่อใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ไร้สายต่างๆ แม้ว่าจะไม่มีการเชื่อมต่อก็ยังคงมีการทำงานอยู่ และใช้กระแสไฟฟ้าในการหล่อเลี้ยงระบบ ดังนั้นอุปกรณ์ไหนที่ไม่จำเป็น ก็ควรปิดเครื่องและถอดปลั๊กทันที เพื่อช่วยประหยัดไฟฟ้า หรืออย่างการใช้หูฟังก็ควรเลือกหูฟังแบบมีสาย เพราะใช้กระแสไฟฟ้าน้อยกว่าหูฟังไร้สาย เป็นต้น 5.

4ป. ประหยัดพลังงาน ช่วยโลกประหยัด ค่าไฟเรายิ่งประหยัด! - PSI.CO.TH

เลือกขนาดตู้เย็นให้เหมาะสมกับขนาดครอบครัว และควรตั้งตู้เย็นไว้ห่างจากผนังบ้าน 15 ซม. 22. ควรละลายน้ำแข็งในตู้เย็นสม่ำเสมอ การปล่อยให้น้ำแข็งจับหนาจนเกินไปจะทำให้เครื่อง ต้องทำงานหนัก ทำให้กินไฟมาก 23. เลือกซื้อตู้เย็นประตูเดียว เนื่องจากตู้เย็น 2 ประตู จะกินไฟมากกว่าตู้เย็นประตูเดียวที่มีขนาดเท่ากัน เพราะต้องใช้ท่อน้ำยาทำความเย็นที่ยาวกว่าและใช้คอมเพรสเซอร์ขนาดใหญ่กว่า 24. ควรตั้งสวิตซ์ควบคุมอุณหภูมิของตู้เย็นให้มีอุณหภูมิพอเหมาะ 25. ไม่ควรพรมน้ำจนแฉะเวลารีดผ้า เพราะต้องใช้ความร้อนในการรีดมากขึ้น 26. ดึงปลั๊กออกก่อนการรีดเสื้อผ้าเสร็จ เพราะความร้อนที่เหลือในเตารีด ยังสามารถรีดต่อได้จนกระทั่งเสร็จ 27. ไม่ควรเสียบและถอดปลั๊กเตารีดบ่อย ๆ เพราะการทำให้เตารีดร้อนแต่ละครั้งกินไฟมาก 28. หลังซักผ้าด้วยเครื่องซักผ้า ไม่ควรอบผ้าด้วยเครื่องซักผ้า เพราะจะเปลืองไฟมาก 29. ปิดโทรทัศน์ทันทีเมื่อไม่มีคนดู โดยปิดที่ตัวเครื่อง ไม่ใช้ปุ่มแสตนด์บายจากรีโมท เพราะเครื่องจะยังมีการใช้ไฟฟ้าอยู่ตลอดเวลา 30. ไม่ควรปรับจอโทรทัศน์ให้สว่างเกินไป และอย่าเปิดโทรทัศน์ให้เสียงดังเกินความจำเป็น 31. เช็ดผมให้แห้งก่อนเป่าผมทุกครั้ง เพราะผมที่เปียกมาก ๆ ต้องใช้เวลาเป่านาน 32.

การอนุรักษ์พลังงานในระบบปรับอากาศ – ZERO ENERGY

วิธีใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัด

การออกแบบอาคารอนุรักษ์พลังงาน (อาคารประหยัดพลังงาน) เป็นที่ทราบกันดีว่ามูลเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ มาจากการใช้พลังงานฟอสซิล นอกจากจะทำให้ทรัพยากรเหล่านั้นลดน้อยลงไป ยังได้ก่อปัญหาสิ่งแวดล้อมต่างๆอีกมากมาย อาคารก็เป็นส่วนหนึ่งที่มีการใช้พลังงานมหาศาล ดังนั้นจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่เราควรออกแบบอาคารให้เป็นอาคารอนุรักษ์พลังงาน อย่างไรก็ตามไม่ใช่ทำเพียงเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม แต่ยังเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายทางพลังงานอีกด้วย สำหรับหลักการออกแบบอาคารอนุรักษ์พลังงาน มีดังนี้ 1. ด้านรูปทรงอาคารและการใช้พื้นที่ อาคารควรมีรูปทรงสี่เหลี่ยมพื้นผ้าโดยให้ด้านสั้นหันไปยังทิศตะวันออกและทิศตะวันตก เพื่อให้ความร้อนจากแสงแดดเข้าสู่อาคารน้อย ควรจัดวางพื้นที่ใช้สอยที่มีการใช้ชั่วคราว เช่น บันได ทางหนีไฟ ไว้ทางด้านทิศตะวันออกและทิศตะวันตก ส่วนพื้นที่ใช้สอยหลักให้ใช้ฝั่งทิศเหนือ ส่วนทิศใต้ควรใช้เป็นระเบียงทางเดินแบบเปิดโล่ง รูปที่ 1 รูปทรงอาคารและการใช้พื้นที่ของอาคารอนุรักษ์พลังงาน (โรงเรียน) [1] 2.
October 10, 2022