ถุงมือ 2. ผ้าเช็ดรถ 3. น้ำสะอาด ขั้นตอนการตรวจเชคระบบปรับอากาศ 1. จอดรถในที่ราบ แล้วเปิดฝากระโปรงหน้า โดยต้องตั้งค้ำเหล็กให้มั่นคง 2. ตรวจดูหม้อพักน้ำ สังเกตว่ามีน้ำพร่องไปหรือไม่ (ควรอยู่ในระดับ FULL เสมอ) 3. บิดเปิดฝาหม้อน้ำในทิศทวนเข็มนาฬิกา ต้องเปิดขณะเครื่องยนต์เย็นแล้วเท่านั้น 4. สังเกตบริเวณปากหม้อน้ำ ดูว่ามีน้ำอยู่ในระดับไหน (ควรมีน้ำอยู่ในระดับเกือบเต็มตลอด) 5. ถ้าน้ำลดลงให้เติมน้ำสะอาดเข้าไปจนเต็ม (ถ้าน้ำลดลงเยอะแสดงว่ารั่ว ควรไปพบช่าง) 6. สตาร์ทเครื่องยนต์ เพื่อตรวจเชคระบบหมุนวนของน้ำ (เชควาล์วน้ำ) 7. สังเกตลักษณะของน้ำ ถ้าน้ำมีการไหลแสดงว่าปกติ น้ำจะเริ่มไหลเมื่อเครื่องร้อน (วาล์วน้ำทำงาน) 8. ปิดฝาหม้อน้ำโดยหมุนตามเข็มนาฬิกา ควรหมุนให้แน่นสนิท 9. ตรวจสอบท่อทางเดินน้ำ โดยวิธีการบีบ ดูรอยแตก และให้สังเกตคราบน้ำต่างๆ ถ้ามีคราบแสดงว่ารั่ว 10. ตรวจเชคพัดลมไฟฟ้าหน้าเครื่อง ว่าทำงานเป็นปกติหรือไม่ 11. ตรวจเชคสายพานหน้าเครื่อง ว่ามีการแตกลายงาหรือไม่ ถ้าแตกแนะนำให้เปลี่ยนใหม่ 12. ดับเครื่องยนต์ และปิดฝากระโปรงหน้าให้เรียบร้อย เป็นอันเสร็จ
Victor เครื่องกรองน้ำเย็น ระบบ UF 2 ก๊อก รุ่น VT-1211 และ 4 ก๊อก รุ่น VT-1411 - วิธีต่อสายน้ำ - YouTube
สมรรถนะของคอมเพรสเซอร์ สมรรถนะของคอมเพรสเซอร์ คือ ค่าที่ใช้บอกความสามารถในการทำงานของคอมเพรสเซอร์ซึ่งจะมีความสัมพันธ์โดนตรงกับสมรรถนะของระบบทำความเย็น การศึกษาสมรรถนะของคอมเพรสเซอร์ชนิดต่างๆนั้น โดยอาจจะใช้คอมเพรสเซอร์แบบลูกสูบเป็นแนวทางหรือเป็นตัวอย่างในการศึกษา ส่วนประกอบต่างๆ ที่มีผงต่อสมรรถนะของคอมเพรสเซอร์ มีดังนี้ 2. 1 วัฏจักรการอัด คอมเพรสเซอร์แบบลูกสูบทำงานโดยอาศัยการเคลื่อนที่ทั้งในลักษณะขึ้นลงของลูกสูบหรือเคลื่อนที่สลับระหว่างศูนย์ตายบนและศูนย์ตายล่างภายในกระบอกสูบ 2. 2 ความดันด้านดูด ในระบบการทำงานภายใต้ความดันด้านดูดมีค่าต่ำ จะทำให้ค่าประสิทธิภาพเชิงปริมาณลดลง เนื่องจากสารความเย็นภายนอกไหลเข้ากระบอกสูบได้น้องลง 2. 3 ระยะช่องว่างระหว่างลูกสูบและแผ่นลิ้นจะต้องให้มีค่าน้อยที่สุด เพราะจะมีผลต่อปริมาตรของด้านดูดและทางด้านจ่าย ซึ่งจะมีผลโดยตรงต่อการบรรจุสารความเย็นเข้าในกระบอกสูบและการส่งสารความเย็นออกจากกระบอกสูบออกไปใช้งาน นอกจากนี้ประสิทธิภาพจองคอมเพรสเซอร์ยังขึ้นอยู่กับสาวยประกอบอื่น ๆ อีก เช่น ขนาดของวาล์วทั้งทางด้านดูดและทางด้านจ่าย ซึ่งเหล่านี้ล้วนแต่มีผลต่อการบรรจุสารทำความเย็นเข้าในกระบอกสูบทั้งสิ้น 3.
2 คอมเพรสเซอร์แบบปิดสนิทที่ใช้งานในปัจจุบันแบ่งออกได้ตามระบบการทำงานเป็น 3 ชนิด 1. 2. 1 คอมเพรสเซอร์แบบลูกสูบ คอมเพรสเซอร์แบบลูกสูบมาตรฐานหมายถึงคอมเพรสเซอร์ ที่มีส่วนประกอบคล้ายกับเครื่องยนต์ กล่าวคือ ลูกสูบของคอมเพรสเซอร์ จะเคลื่อนที่ไปในแนวเส้นตรงภายในกระบอกสูบ เป็นการดูดหรืออัดแก๊ส ลูกสูบต่ออยู่ก้านลูกสูบและเพล้าข้อเหวี่ยง 1. 2 คอมเพรสเซอร์แบบโรตารี่ คอมเพรสเซอร์แบบโรตารี่ชนิดใบพัดอยู่กับที่ประกอบด้วยเพลาลูกเบี้ยวสวมอยู่ในโรเตอร์ ทั้งหมดนี้ประกอบอยู่ในเรือนคอมเพรสเซอร์โดยจุดศูนย์กลางของเพลาลูกเบี้ยวและคอมเพรสคอมเพรสเซอร์จะอยู่ในจุดเดียวกัน ใบพัดสอดและเคลื่อนที่ขึ้นลงอยู่ในช่อง คอมเพรสเซอร์จะสัมผัสกับโรเตอร์ตลอดเวลาด้วยแรงสปริง 1.
Compressor เป็นเครื่องอัดและดูดสารทำความเย็นในขณะที่เป็นแก๊ส โดยดูดแก๊สที่มีอุณหภูมิ และความร้อนต่ำ และอัดให้มีความดันและอุณหภูมิสูง จนถึงจุดที่แก๊สพร้อมจะควบแน่นเป็นของเหลวเมื่อมีการถ่ายเทความร้อนออกจากสารทำความเย็น 2. Condenser ทำหน้าที่ให้สารทำความเย็นในสถานะที่แก๊สกลั่นตัวเป็นของเหลว ด้วยการระบายความร้อนออกจากสารทำความเย็นนั้นกล่าวคือ สารทำความเย็นซึ่งอยู่ในสถานะ อุณหภูมิสูง ความดันสูง ซึ่งถูกอัดส่งมาจาก Compressor เมื่อถูกระบายความร้อนแฝงออก จะกลั่นตัวเป็นของเหลว แต่ยังมีความดันและอุณหภูมิสูงอยู่ 3. Receiver Tank สารทำความเย็นซึ่งอยู่ในสถานะของเหลวที่มีความดันและอุณหภูมิสูงที่ถูกส่งมายังถังพักในถังพักน้ำยานี้ ก่อนที่จะถูกส่งไปยัง Expansion Valve อีกทีหนึ่ง 4. Expansion Valve ทำหน้าที่ควบคุมอัตราการไหลของสารทำความเย็นเหลวที่ผ่านเข้าไปใน ลดความดันของสารทำความเย็นให้มีความดันต่ำลงจนสามารถระเหยเปลี่ยนสถานะกลายเป็นไอได้ในอุณหภูมิต่ำๆใน Evaporator กล่าวโดยสรุปคือจะเป็นตัวแสดงค่าความแตกต่างของแรงดันระหว่างภาคความดันสูง และภาคความดันต่ำของระบบทำความเย็นในขณะที่เครื่องทำงาน 5. Evaporator ทำหน้าที่ดูดรับปริมาณความร้อนจากบริเวณหรือเนื้อที่ที่ต้องการทำความเย็น ขณะที่สารทำความเย็นภายในระบบนี้ จะดูดรับเอาความร้อนที่ต้องการจะทำให้เย็นเข้ามาสู่ตัวเองจนเดือดเปลี่ยนสถานะกลายเป็นก๊าช 6.
3. ส่วนประกอบเครื่องทำความเย็นแบบอัดไอ 3. 1 คอมเพรสเซอร์ (Compressor) เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ดูดและอัดสารทำความเย็นให้ไหลเวียนในระบบการทำความเย็นแบบอัดไอ แบ่งตามลักษณะโครงสร้างมีดังนี้ ภาพแสดงคอมเพรสเซอร์แบบเปิด ภาพแสดงคอมเพรสเซอร์แบบหุ้มปิดมิดชิด ภาพแสดงคอมเพรสเซอร์แบบกึ่งปิด 3. 2 คอนเดนเซอร์ (Condenser) เป็นอุปกรณ์ที่ทำให้สารทำความเย็นกลั่นตัวเปลี่ยนสถานะจากแก๊สกลายเป็นของเหลว โดยรับสารทำความเย็นสถานะแก๊สที่มีความดันและอุณหภูมิสูงจากคอมเพรสเซอร์เข้ามาแล้วระบายความร้อนกลั่นตัวเป็นของเหลว แบ่งตามลักษณะการระบายความร้อนได้ดังนี้ คอนเดนเซอร์ระบายความร้อนด้วยอากาศ คอนเดนเซอร์ระบายความร้อนด้วยน้ำ และคอนเดนเซอร์ระบายความร้อนด้วยน้ำและอากาศ ภาพแสดงคอนเดนเซอร์ระบายความด้วยอากาศ ภาพแสดงคอนเดนเซอร์ระบายความด้วยอากาศแบบแผ่นโลหะ 3. 3 อุปกรณ์ลดความดัน (Metering Device) ทำหน้าที่ ลดความดันและควบคุมการไหลของสารทำความเย็นเหลวให้มีความดันต่ำลงจนสามารถเดือดเป็นไอที่อุณหภูมิต่ำในเครื่องระเหย 3. 4 เครื่องระเหย (Evaporator) เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่เปลี่ยนสถานะสารทำความเย็นจากของเหลวกลายเป็นแก๊ส เมื่อสารทำความเย็นถูกลดความดันฉีดเข้ามาในอีแวปปอเรเตอร์ก็จะเกิดการเดือดและระเหยกลายเป็นแก๊ส ในการเปลี่ยนสถานะของสารทำความเย็นจะดูดเอาความร้อนจากอากาศที่อยู่รอบ ๆ ทำให้บริเวณนั้นเย็น ภาพแสดงอีแวปปอเรเตอร์ตามลักษณะการทำงาน ภาพแสดงอีแวปปอเรเตอร์ตามลักษณะการสร้าง 3.