บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการรีสตาร์ทหรือรีบูทคอมพิวเตอร์ Windows และ macOS อย่างปลอดภัยให้คุณเอง 1 กด Ctrl + Atl + Del ที่คีย์บอร์ด. จะเห็นหน้าจอที่มีหลายตัวเลือก (Lock, Switch User, Sign Out, Task Manager) โผล่มา ถ้าคอมอืด อาจจะต้องรอหน่อยกว่าจะเห็นตัวเลือก [1] ถ้าเชื่อมต่อคอมจากระยะไกลผ่าน Remote Desktop จะใช้คีย์ลัดนี้ไม่ได้ผล แต่ถ้าโปรแกรม remote desktop ที่ใช้รองรับ ก็จะ 'send' หรือสั่งการด้วยปุ่มที่ว่าได้ หรือเปิด command prompt ในคอมระยะไกล แล้วใช้คำสั่ง shutdown -r -f -t 0 ได้ 2 คลิกไอคอน Power. ที่เป็นวงกลม มีเส้นตั้งผ่ากลาง อยู่ด้านขวาล่างของหน้าจอ 3 คลิก Restart. คอมจะรีสตาร์ท ถ้าเปิดโปรแกรมไหนไว้ จะมีเตือนให้ปิดก่อนรีสตาร์ทคอม 4 ทำ hardware reboot. ถ้าคอมค้าง ก็ต้องทำ hardware reboot ขอให้เก็บวิธีนี้ไว้ทำตอนขั้นตอนที่ผ่านๆ มาไม่ได้ผลเท่านั้น ขั้นตอนคือ กดปุ่ม power ที่คอมค้างไว้ จนคอมดับไป ปุ่มนี้ปกติจะอยู่ด้านข้างของแล็ปท็อป หรือที่ด้านหน้าของ "เคสคอม" กดปุ่ม power อีกรอบ เพื่อเปิดคอมกลับมา กด Ctrl + Alt + Del ที่คีย์บอร์ด. เพื่อเปิด lock screen ถ้าคอมค่อนข้างอืด ก็อาจจะต้องรอหน่อย [2] ถ้าเชื่อมต่อคอมจากระยะไกลผ่าน Windows Remote Desktop จะใช้คีย์ลัดนี้ไม่ได้ผล ให้เปิด command prompt ในคอมระยะไกล แล้วใช้คำสั่ง shutdown –r แทน [3] 2 คลิกลูกศรข้างปุ่ม power.
กดแป้นพิมพ์ลัด Alt + F4 เพื่อเปิดหน้า Shut Down Windows จากนั้นเลือก Restart หรือ Shut down เพื่อเริ่มระบบของคอมพิวเตอร์ใหม่และปิดเครื่อง ตามลำดับ รูปที่ 7 วิธีที่ 2. คลิกขวาบนเมนูเริ่มแล้วคลิก Run (หรือกดปุ่ม Windows + R) จากนั้นพิมพ์ shutdown -f -r -t 0 สำหรับเริ่มระบบของคอมพิวเตอร์ใหม่ หรือ shutdown -f -s -t 0 สำหรับปิดเครื่อง เสร็จแล้วคลิก OK รูปที่ 8 รูปที่ 9 วิธีที่ 3: กดแป้นพิมพ์ลัด Ctrl + Alt + Del เพื่อเปิดหน้า Windows Security จากนั้นคลิกปุ่ม Power แล้วคลิก Restart หรือ Shut down เพื่อเริ่มระบบของคอมพิวเตอร์ใหม่และปิดเครื่อง ตามลำดับ รูปที่ 10 ทั้งหมดนี้เป็นวิธีการทั่วไปในการลงชื่อออก การเริ่มระบบของคอมพิวเตอร์ใหม่ และการปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ Windows 10 ใครชื่นชอบวิธีการใดหรือถนัดวิธีการไหนเชิญเลือกใช้กันได้ตามอัธยาศัยครับ Share This by
อันที่จริง มีปัญหาบางอย่างที่สามารถแก้ไขได้ง่าย ๆ โดยการรีสตาร์ทระบบของคุณ อย่างไรก็ตาม คุณไม่ควรทำบ่อยๆ เช่น ไม่จำเป็นต้องรีสตาร์ทหลายครั้งในหนึ่งวัน เหตุผลคือ เมื่อคุณปิดคอมพิวเตอร์ HDD ของคุณจะหมุนลง จากนั้นเมื่อคุณเปิดเครื่องอีกครั้ง เครื่องจะเริ่มหมุนอีกครั้ง ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อฮาร์ดไดรฟ์ของคุณ ฉันมักจะรีสตาร์ทพีซีสัปดาห์ละครั้ง ยกเว้นกรณีที่ระบบต้องการ อ่านถัดไป: ปิดการควบคุมความสว่างของเนื้อหาใน Windows 11
Windows Key + i - คุณเคยต้องการที่จะตั้งค่าอะไรสักอย่างแบบเร่งด่วนไหม คีย์ลัดนี้จะทำให้คุณเข้าถึงการตั้งค่าทั้งหมดได้อย่างรวดเร็วที่สุด 9. Windows Key + G - สายเล่นเกมที่อยากจะบันทึกหน้าจอเอาไว้เวลาเล่นกับเพื่อน เกมบาร์ จะมีเมนูต่างๆมากมายสำหรับการเล่นเกมที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด Windows + Alt + R เพื่อเริ่มบันทึกหน้าจอ และ Windows + Alt + B เพื่อทำการสตรีมเกมของคุณ 10. Windows Key + L - สำหรับสายการทำงาน หรือ คนที่มีความลับในคอมเยอะ เวลาเราจะลุกไปไหนเวลามีเพื่อนอยู่ หรือ อยู่นอกบ้าน กดคีย์ลัดนี้ก็จะเข้าสู่การล็อคหน้าจอในทันที แต่อย่าลืมตั้งค่ารหัสผ่านด้วยล่ะ! • แจก: คูปองส่วนลด 7% CODE: APR65 (นำไปสั่งซื้อบนเว็บไซต์) • โปรโมชั่นพิเศษ: ไม่ว่าสั่งทางเว็บไซต์หรือสั่งทาง Chat ก็รับส่วนลด 7% 1 ครั้งทุกๆเดือน ทัก Line เรามาขอสิทธิ์ได้เลย • ตารางรวมราคาสินค้า: (ดูตารางราคา) เราใช้ 🧡 บริการ:)
หลายคนที่เริ่มมาใช้งาน Windows 8.
กดแป้นพิมพ์ลัด Alt + F4 เพื่อเปิดหน้า Shut Down Windows จากนั้นเลือก Sign out และคลิก OK รูปที่ 2 วิธีที่ 2. กดแป้นพิมพ์ลัด Ctrl + Alt + Del เพื่อเปิดหน้า Windows Security จากนั้นคลิก Sign out รูปที่ 3 วิธีที่ 3. คลิกขวาบนเมนูเริ่ม (Start menu) แล้วคลิก Run (หรือกดปุ่ม Windows + R) จากนั้นพิมพ์ shutdown /f /l /t 10 เสร็จแล้วคลิก OK รูปที่ 4 การ Restart และ Shut down คอมพิวเตอร์ Windows 10 การเริ่มระบบของคอมพิวเตอร์ใหม่และการปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ Windows 10 นั้น ทำได้หลายวิธีด้วยกันแบบเดียวกับการลงชื่อออก Windows 10 และขึ้นอยู่กับว่าเป็นในการใช้งานรูปแบบใด คีย์บอร์ดและเม้าส์ หรือระบบสัมผัส คีย์บอร์ดและเม้าส์ และระบบสัมผัส กรณีที่ใช้งาน Windows 10 ด้วยคีย์บอร์ดและเม้าส์ และระบบสัมผัส สามารถเริ่มระบบของคอมพิวเตอร์ใหม่และการปิดเครื่องได้ด้วยวิธีการดังนี้ วิธีที่ 1. แตะหรือคลิกเมนูเริ่ม (Start menu) หรือกดปุ่มโลโก้ Windows บนคีย์บอร์ด จากนั้นคลิกปุ่ม Power (รูปด้านล่าง) บนเมนูเริ่มแล้วคลิก Restart หรือ Shut down เพื่อเริ่มระบบของคอมพิวเตอร์ใหม่และปิดเครื่อง ตามลำดับ รูปที่ 5 วิธีที่ 2.
ตัวกรอง Ctrl-F Cmd-F ให้ความสำคัญกับช่องค้นหา Ctrl-L Cmd-Alt-F, Cmd-L ย้อนกลับ Alt-Left Cmd-Alt-Left เดินหน้า Alt-Right Cmd-Alt-Right เล่นแถวที่เลือก Enter Enter กำหนดลักษณะ Ctrl-P Cmd-, ออกจากระบบ Ctrl-Shift-W Cmd-Shift-W ออก Alt-F4 Cmd-Q ซ่อนหน้าต่าง - Cmd-H ซ่อนหน้าต่างของแอปพลิเคชันอื่นๆ - Cmd-Alt-H ปิดหน้าต่าง - Cmd-W ย่อหน้าต่าง - Cmd-M คืนค่ากลับจากการย่อ - Cmd-Alt-1 กู้คืนเพลงหรือเพลย์ลิสต์ที่ลบ Ctrl-Shift-Z Ctrl-Z อัปเดตล่าสุด: 15 พฤศจิกายน, 2021
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น MicMute จากเว็บไซต์ SourceForge และติดตั้งบนคอมพิวเตอร์ Windows 10 ของคุณ 2. หลังจากเสร็จสิ้นการติดตั้งคุณจะเห็นไอคอนไมโครโฟนที่ด้านขวาของแถบงาน 3. คลิกขวาที่ไอคอน MicMute จากซิสเต็มเทรย์ และจากนั้นคลิกที่ตั้งค่าทางลัด 4. หน้าต่างการกำหนดค่าขนาดเล็กจะปรากฏขึ้นคลิกที่มัน และกดปุ่มแป้นพิมพ์ที่คุณต้องการใช้ และคลิกที่ตกลง (นอกจากนี้คุณยังสามารถสร้างชุดคีย์ได้แป้นพิมพ์สามารถรับรู้คีย์ปกติรวมถึงปุ่มพิเศษบนคีย์บอร์ด) 5. ทุกครั้งที่คุณปิดเสียงและเปิดเสียงไมโครโฟนโดยใช้แป้นคีย์บอร์ด คุณจะได้รับการแจ้งเตือนบนเดสก์ท็อป หากไมโครโฟนของคุณไม่ได้รับการปิดเสียงด้วยแอปพลิเคชัน จากนั้นคุณต้องกำหนดค่าจากอุปกรณ์ (เพียงคลิกขวาที่ไอคอนแอปเพื่อเข้าถึงการตั้งค่าอุปกรณ์) 2. ปิดใช้งานการเข้าถึงไมโครโฟนสำหรับแอปพลิเคชัน หากคุณต้องการปิดการใช้งานไมค์สำหรับแอพ Windows เฉพาะ จากนั้นคุณสามารถทำได้อย่างง่ายดายจากการตั้งค่า Windows 10 เอง คุณไม่จำเป็นต้องติดตั้งแอปพลิเคชันของบุคคลที่สามใด ๆ 1. กดปุ่ม Windows + I เพื่อเปิดแอปตั้งค่า คลิกที่ความเป็นส่วนตัว 2. จากบานหน้าต่างด้านขวาภายใต้การอนุญาตแอพคลิกที่ไมโครโฟน 3.
วิธีสร้างคีย์ลัด เปิดและปิด ไมโครโฟนในคอมพิวเตอร์ง่ายๆ #Windows10 #Catch5iT - YouTube