เผยแพร่: 31 มี. ค. 2564 18:16 ปรับปรุง: 31 มี.
00-21. 00 น. ณ ห้องแกรนด์บอลรูม ชั้น 7 โรงแรมโซฟิเทล สุขุมวิท กรุงเทพฯ ผลประกวดกองทุนสำรองเลี้ยงชีพดีเด่น ครั้งที่ 7 ประจำปี 2561 เอกสารแนบ - เชิญเข้าร่วมโครงการ Financialbeginner รุ่นที่1 เอกสารแนบ - เชิญเข้าร่วมโครงการ FinancialLab รุ่นที่ 1 เอกสารแนบ - เชิญเข้าร่วมโครงการดูงานไตัหวัน เอกสารแนบ - เชิญเข้าร่วมอบรมจะคัดเลือกบลจ.
ได้ดำเนินการร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ในการพัฒนาศักยภาพและส่งเสริมให้ PVD เป็นเครื่องมือการออมรองรับการเกษียณ และให้ความสำคัญต่อการสร้างความตระหนักรู้ด้านการออมระยะยาวเพื่อการเกษียณอายุ โดยขณะนี้ ก. อยู่ระหว่างพัฒนาเว็บไซต์ให้เป็นศูนย์กลางความรู้และข้อมูลเกี่ยวกับ PVD เพื่อให้เพื่อนสมาชิก รวมถึงนายจ้างและคณะกรรมการกองทุนได้เข้าถึงแหล่งข้อมูลความรู้ เช่น ข้อมูลกองทุนที่ช่วยให้ตัดสินใจลงทุนอย่างเพียงพอและง่ายต่อการเปรียบเทียบ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ผู้เขียนจึงอยากชวนทุกท่านเตรียมพบกับเว็บไซต์กองทุนสำรองเลี้ยงชีพโฉมใหม่และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เพื่อนสมาชิกจะได้ใช้ประโยชน์จากข้อมูลดังกล่าวในการทำให้ PVD เป็นเงินออมก้อนใหญ่ก้อนหนึ่งในการเลี้ยงชีพหลังเกษียณได้
11 ม. ค. 2564 10:45 น. ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศกระทรวงการคลัง ขยายเวลางดสมทบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพได้ อีก 6 เดือน ถึง มิถุนายน 2564 ประกาศนี้ มีสาระสำคัญ คือ ตามที่ได้มีประกาศกระทรวงการคลัง (ฉบับที่ 1) เมื่อ 29 เมษายน พ. ศ.
คลัง ดัน กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ภาคบังคับ ให้ผู้ประกอบการทุกรายที่มีลูกจ้าง 100 คนขึ้นไป จ่ายสมทบเริ่มต้น 3% หวังลูกจ้างมีเงินออมยามเกษียณ ดีเดย์ปี 2561 เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2559 นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ทางกระทรวงได้เสนอรายละเอียดร่างพระราชบัญญัติ (พ. ร. บ. ) กองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ (กบช. ) ให้คณะรัฐมนตรี (ครม. ) พิจารณาเห็นชอบแล้ว ขึ้นอยู่กับเลขาธิการ ครม. จะบรรจุวาระพิจารณาเห็นชอบเมื่อไรเท่านั้น ทั้งนี้สาระสำคัญของ พ. ฉบับนี้คือ จะมีการออกกฎหมายเพื่อบังคับให้ผู้ประกอบการทุกรายตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้กับลูกจ้าง โดยจะเริ่มจากผู้ประกอบการที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 100 รายขึ้นไปก่อน เพื่อไม่ให้กระทบต่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ซึ่งกฎหมายนี้จะเริ่มบังคับใช้ในปี พ. ศ.
ขอบคุณภาพเพจ ไทยคู่ฟ้า เปิดเกณฑ์กองทุนสำรองเลี้ยงชีพภาคบังคับ สิทธิประโยชน์อื้อ หักเงิน-สมทบสูงสุด 10% เมื่อวันที่ 31 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 มีนาคม เห็นชอบร่างพ. ร. บ. กองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ พ. ศ….. ถือเป็นการสร้างวินัยการออมของประชาชนวัยทำงาน ในรูปแบบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพภาคบังคับสำหรับแรงงานในระบบ โดยได้รับผลประโยชน์คืนในรูปแบบการจ่ายบำเหน็จบำนาญ ทำให้มีรายได้เพียงพอต่อการดำรงชีพหลังเกษียณ โดยมีกองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ (กบช. ) เป็นหน่วยงานกำกับดูแล ล่าสุดเพจไทยคู่ฟ้าได้สรุปรายละเอียดของร่างพ. ว่า ใครบ้างที่ต้องเป็นสมาชิกของ กบช.? ลูกจ้างที่มีอายุตั้งแต่ 15 – 60 ปี ทั้งลูกจ้างเอกชน ลูกจ้างชั่วคราวของราชการ พนักงานราชการ เจ้าหน้าที่องค์การมหาชน และพนักงานรัฐวิสาหกิจ ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ สำหรับการจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนฯ กบช. จะกำหนดให้นายจ้างและลูกจ้างส่งเงินสมทบแต่ละฝ่าย ดังนี้ ปีที่ 1 – 3 ไม่น้อยกว่าร้อยละ 3 ของค่าจ้าง ปีที่ 4 – 6 ไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 ของค่าจ้าง ปีที่ 7 – 9 ไม่น้อยกว่าร้อยละ 7 ของค่าจ้าง ปีที่ 10 เป็นต้นไป ไม่น้อยกว่าร้อยละ 7 – 10 ของค่าจ้าง โดยกำหนดเพดานค่าจ้างสูงสุดไม่เกิน 60, 000 บาทต่อเดือน กรณีลูกจ้างเงินเดือนน้อยกว่า 10, 000 บาท ให้นายจ้างส่งเงินฝ่ายเดียว หากลูกจ้างและนายจ้างต้องการส่งเพิ่ม สามารถส่งเพิ่มได้สูงสุดไม่เกิน 30% ของค่าจ้าง โดยไม่จำกัดเพดานค่าจ้าง วิธีรับเงินจาก กบช.
1 ล้านบาท แต่แนวโน้มในปัจจุบันคือ ลูกจ้างคนนี้ ถ้าอายุ 30 ปี มีรายได้เดือนละ 20, 000 บาทเช่นกัน เข้าร่วมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพแบบเดียวกัน ถ้าเขาจ่ายเงินสะสมเหลือเพียง 2% นายจ้างก็สมทบ 2% กองทุนบริหารได้ผลตอบแทน 3% และเงินเดือนเพิ่มทุกปีๆละ 3% เมื่ออายุ 60 ปี ลูกจ้างคนนี้จะมีเงินในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเหลือเพียง 6. 99 แสนบาทเท่านั้น ขณะที่ประเทศสิงคโปร์กำหนดให้บริษัททุกแห่งในประเทศ ต้องหักเงินสะสมของพนักงานเพื่อเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 20% และรัฐบาลจะสมทบให้อีก 17% รวมเป็น 34% เมื่อเทียบกับประเทศไทยที่ 4% คงพอจะมองเห็นว่าอนาคตพนักงานบริษัทในไทย เมื่อยามเกษียณอายุจะอยู่กันอย่างไร ในด้านการลงทุน ดร.
มนุษย์เงินเดือนควรรู้ เรื่องกองทุนสำรองเลี้ยงชีพกฎหมายใหม่